วิ่งสู้ฟัด 2013
วิ่งสู้ฟัด 2013 (จีน: 警察故事2013; อังกฤษ: Police Story 2013 หรือที่รู้จักในชื่อ Hong Kong Police Story 2013 [1]) เป็นภาพยนตร์จีน-ฮ่องกงแนวแอ็คชั่นอาชญากรรมที่เตรียมจัดฉาย นำแสดงโดยเฉินหลง ในการเริ่มต้นใหม่ของภาพยนตร์ซีรีส์ วิ่งสู้ฟัด กำกับภาพยนตร์โดย ติงเซิง ผู้ซึ่งได้กำกับภาพยนตร์ก่อนหน้านี้ของเฉินหลงอย่าง ใหญ่พลิกแผ่นดิน
นักแสดงนำ
- เฉินหลง รับบทเป็น นักสืบจงเหวิน
- หลิวเย่ รับบทเป็น หวู่เจียง
- หวงป๋อ
- จิ่งเถียน รับบทเป็น เหมียวเหมียว
- จาง หลานซิน
- หวัง จื้อเฟย
- เจิ้ง เสี่ยวหนิง
- กู่ลี่น่าจา
- หลิ่ว ไห่หลง รับบทเป็น ไหมไทย (ชื่อในเวอร์ชันไทย)
ฟัด ตามที่เฉินหลงแสดง ได้มีความแตกต่างจากภาพยนตร์วิ่งสู้ฟัด ในภาคก่อนที่เขาได้รับบทเป็นตำรวจฮ่องกง โดยในภาคใหม่ เขาได้สวมบทบาทเป็นนายตำรวจจีนแผ่นดินใหญ่[2]
เช่นเดียวกับ วิ่งสู้ฟัด 5 เหิรสู้ฟัด ที่ได้มีการแสดงโดยไม่ใช้นักแสดงแทน โดยนำเสนอเนื้อหาที่เข้มข้นกว่าภาคก่อนหน้านี้ที่เป็นแนวตลกขบขัน
เฉินหลง (จีนตัวย่อ: 成龙; จีนตัวเต็ม: 成龍; พินอิน: Chénglóng) อ่านว่า เฉิงหลง หรือ แจ๊กกี้ ชาน (อังกฤษ: Jackie Chan) เป็นนักแสดงชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก เกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน ค.ศ. 1954 ชื่อจริงของเฉินหลงคือ เฉิน กั่งเซิง (จีนตัวย่อ: 陈港生; จีนตัวเต็ม: 陳港生; พินอิน: Chén Gǎngshēng) ซึ่ง เฉิน กั่งเซิง มีความหมายว่า เกิดที่ฮ่องกง
จุดประสบความสำเร็จ
ปี 1978 เมื่อเฉินหลงนำแสดงหนังให้กับ Seasonal Film เรื่อง Snake in the Eagle's Shadow (ไอ้หนุ่มพันมือ) (1978) ทำให้ชื่อของเฉินหลง กลายเป็นดาราดังเพียงช่วงข้ามคืน เพราะสามารถทำเงินอย่างมหาศาลในฮ่องกง จากนั้นเฉินหลงก็ได้นำแสดงใน Drunken Master (ไอ้หนุ่มหมัดเมา) (1978) โดยเฉพาะเรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะประสบความสำเร็จในฮ่องกงเท่านั้น แต่ยังประสบความสำเร็จทั่วเอเชียอีกด้วย
และเมื่อเฉินหลงหมดสัญญากับหลอเหว่ย เขาก็มุ่งหน้าไปที่สังกัดโกลเด้นท์ ฮาร์เวส (Golden Harvest) ซึ่งในอดีตบรู๊ซ ลี เคยเป็นดาราประจำของค่ายนี้ โดยที่สิทธิการทำหนังในค่ายนี้ เฉินหลงเป็นคนสามารถเลือกเองได้ ผลงานเรื่องแรกในค่ายนี้คือเรื่อง The Young Master (ไอ้มังกรหมัดสิงโต) (1980) ซึ่งสามารถทำรายได้ 10 ล้านเหรียญฮ่องกงเป็นเรื่องแรก จากนั้น หลังจากนั้นเฉินหลงก็ได้กลับมาทำหนังในฮ่องกงกับร่วมกับ 2 สหายอย่าง หงจินเป่า และ หยวนเปียว โดยผลงานที่ทั้งสามได้แสดงด้วยกันมี 6 เรื่อง คือ Winners and Sinners (มือปราบจมูกหิน) (1983) Project A (เอไกหว่า) (1984) Wheels on Meals (ขาตั้งสู้) (1984) My Lucky Stars (7เพชรฆาตสัญชาติฮ้อ) (1985) Twinkle Twinkle Lucky Stars (ขอน่า อย่าซ่าส์) (1986) และ Dragons Forever (มังกรหนวดทอง) (1988) เป็นเรื่องสุดท้าย (แต่เรื่อง Heart of Dragon (2พี่น้องตระกูลบึ้ก) (1985) เฉินหลงกับหงจินเป่าแสดง แต่หยวนเปียวอยู่ในส่วนกำกับคิวบู๊ )
แต่เฉินหลงกลับมาประสบความสำเร็จอย่างสูงอีกครั้ง ในหนังตำรวจร่วมสมัยอย่าง Police Story (วิ่งสู้ฟัด) (1985) โดยเรื่องนี้ทำให้เฉินหลงได้รับรางวัลม้าทองคำ (ตุ๊กตาทองฮ่องกง) ถึง 2 รางวัล คือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และ ออกแบบฉากต่อสู้ยอดเยี่ยม จากนั้นเฉินหลงก็แสดงหนังในฮ่องกงหลายเรื่องตลอดมาเรื่อยๆ เช่น Armour of God (ใหญ่สั่งมาเกิด) (1987) Police Story 2 (วิ่งสู้ฟัด2) (1988)Miracles (ฉีจี้) (1989)
จนโชคเพิ่งมาเข้าข้างเฉินหลงในช่วงยุค'90 หนังหลายเรื่องของเฉินหลงเป็นที่ยอมรับในทั่วเอเชียเกือบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นArmour of God II: Operation Condor (ใหญ่สั่งมาเกิด 2 : อินทรีทะเลทราย) (1991) Police Story 3: Supercop (วิ่งสู้ฟัด3) (1992)City Hunter (ใหญ่ไม่ใหญ่ ข้าก็ใหญ่) (1993) Crime Story (วิ่งสู้ฟัด ภาคพิเศษ) (1993) และตำนานไอ้หนุ่มหมัดเมาอย่าง Drunken Master II (ไอ้หนุ่มหมัดเมา2) (1994) ซึ่งเรื่องนี้เฉินหลงได้ร่วมงานกับ หลิวเจียงเหลียง อีกทั้งยังทำรายได้ไปถึง 40 ล้านเหรียญฮ่องกง จากนั้นเฉินหลงก็มีหนังท็อปฟอร์มหลายเรื่องในเวลาต่อมา เช่น Thunderbolt (1995) (เร็วฟ้าผ่า) Police Story 4: First Strike (ใหญ่ฟัดโลก2) (1996) Mr. Nice Guy (ใหญ่ทับใหญ่) (1997) และ Who Am I? (ใหญ่เต็มฟัด) (1998)
อ้างอิง: http://th.wikipedia.org/wiki/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น